Colorful Filler คือ สารฉีดเพื่อเติมเต็มในชั้นผิวหนังหรือใต้ผิวหนัง ที่มีส่วนประกอบของ ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นองค์ประกอบธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดีมากถึง 1,000 เท่า มีส่วนสำคัญในการมอบความชุ่มชื่นให้เซลล์ผิว ทำให้ผิวแลดูเรียบเนียนดูเต่งตึง

เพราะอายุที่มากขึ้นทุกวัน ทำให้เกิดความร่วงโรย เพราะ HA เสื่อมถอยลง Colorful Filler จึงถูกคิดค้นมาเพื่อทำการทดแทนหรือเสริม HA ในผิว เติมเต็มวอลุ่มสู่ใบหน้า เพิ่มความกระชับ และความเรียบเนียนของผิว ทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นสู่ผิวและชะลอริ้วรอยที่อาจก่อตัวขึ้นในอนาคต

จุดเด่น

• ผลิตและผ่านการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธ์เฉพาะขั้นสูงจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และได้รับรางวัลการันตีจากยุโรป
• ปลอดภัยสูงด้วยการรับรองจาก US FDA และอย.ไทย
• คุณสมบัติพิเศษ ทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง
• มี 4 สี 4 สูตร เพื่อเติมเต็มในทุกชั้นผิวได้อย่างครบถ้วน

การเลือกใช้ Colourful Filler ในแต่ละชั้นผิว

• Soft – เหมาะสำหรับเติมเต็มบริเวณใต้ตา หรือเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วยเทคนิค skin booster
• Balance – เติมเต็มริมฝีปาก ริ้วรอยตื้นๆ และหลุมสิว
• Intense – เติมร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
• Volume – ปรับรูปหน้าบริเวณคาง เติมเต็มแก้มและขมับ

ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังเข้ารับการฉีดสารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์)

ก่อนการรักษา

• ผู้ที่เคยมีประวัติการเป็นโรคเริม หรือมีตุ่มน้ำใสบริเวณริมฝีปากควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
• หลีกเลี่ยงการทำฟัน รวมถึงการขูดหินปูน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อน และ 4 สัปดาห์หลังการรักษา หลีกเลี่ยงการผ่าตัดบริเวณช่องปาก 4 สัปดาห์ก่อนและหลังการรักษา
• 7 วันก่อนการรักษา เพื่อป้องกันการเกิดรอยเขียวช้ำ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟ่น (Ibuprofen) รวมไปถึงอาหารเสริมบางชนิด เช่น กระเทียม, วิตามินอี, ใบแปะก๊วย, และโอเมก้า 3

หมายเหตุ หากคุณมีประวัติเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โปรดสอบถามแพทย์เฉพาะทางก่อนการหยุดยาแอสไพริน ไม่ควรหยุดยาเอง

• งดการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนและหลังการรักษา เพื่อป้องกันการเขียวช้ำที่มากขึ้น
• ข้อห้ามในการฉีดสารเติมเต็ม ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, ผู้ที่มีประวัติการแพ้สารไฮยาลูโรนิก และส่วนประกอบของสารชนิดนี้
• หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด สามารถสอบถามแพทย์ผู้รักษาก่อนเข้าการรักษา

วันที่เข้ารับการรักษา

• ควรงดการแต่งหน้าหากไม่จำเป็น โดยคุณสามารถนำเครื่องสำอางมาแต่งได้หลังการรักษา
• อาจมีการทายาชาบริเวณที่จะทำการรักษาก่อนประมาณ 30 นาที เพื่อความสบายขณะทำการรักษา
• ขณะทำการรักษาอาจรู้สึกตึงๆ หรือเจ็บเล็กน้อย คล้ายถูกแมลงกัด
• เพื่อความเรียบเนียนและได้รูป แพทย์อาจทำการนวดในบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นแดงเล็กน้อย
• หลังการรักษาอาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อย และในบางรายอาจมีอาการเขียวช้ำได้ โดยอาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน

หลังการรักษา

• บางบริเวณอาจรู้สึกตึงๆ ได้เล็กน้อย เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์หลังการรักษา เมื่อเวลาผ่านไปสารเติมเต็มบริเวณนั้นจะนุ่มลงและเริ่มคงที่
• หากมีอาการบวมหรือเขียวช้ำ สามารถประคบเย็นได้ โดยงดการกดนวดบริเวณที่ทำการรักษา
• สามารถแต่งหน้าได้หลังจากเลือดหยุดสนิทแล้ว
• หลีกเลี่ยงการกดนวดบริเวณที่ทำการรักษาเป็นเวลา 2-3 วัน ควรล้างหน้าและแต่งหน้าด้วยความอ่อนโยน
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักในวันที่ทำการรักษา
• บางท่านอาจมีอาการปวดเล็กน้อยบริเวณที่ทำการรักษา สามารถรับประทายยาแก้ปวดพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาอาการได้
• หลีกเลี่ยงแสงแดดจนกว่าอาการบวมแดงจะหายไป และควรทาครีมกันแดด SPF 30 เป็นอย่างน้อยทุกวัน
• งดการทำหัตการใดๆ รวมถึงเลเซอร์อย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังการรักษา หรือตามคำแนะนำของแพทย์
• รอยเขียวช้ำจะหายไปได้เองภายใน 5-14 วัน
• หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใด สามารถสอบถามแพทย์ผู้ทำการรักษาหรือพนักงานในคลินิกได้

ราคา